เลวระยำ!! "โจ๋เดนนรก" ลูกเสี่ยค้ามะพร้าว ลวงสาวรุ่นพี่ ข่มขืนกลางป่าละเมาะ เหยื่อสุดช้ำ คดีไม่คืบ-แถมส่อเป็นผู้ต้องหาเสียเอง!!

วันที่ 8 เมษายน 2560 นายธีรศักดิ์ ฑีฆายุวัฒนา กำนันตำบลนาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางกัญญาภัค อินทร์จันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ได้พานางสมร ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 8 ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก และ น.ส.ดาว นามสมมติ อายุ 21 ปี หลานสาว นักศึกษาแผนกการตลาด ชั้น ปวส. 2 วิทยาลัยเทคนิคชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว

กรณี ถูกนายเอ อายุ 16 ปี อยู่ที่ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก ลูกชายเจ้าของธุรกิจค้ามะพร้าวรายใหญ่ ข่มขืนที่บริเวณป่าละเมาะใกล้เหมืองร้าง หมู่ 1 ต.นาหูกวาง เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ร.ต.อ.ไพรัช พาเขียว รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทับสะแก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวให้แพทย์ รพ.ทับสะแก ทำการตรวจร่างกาย ผลตรวจยืนยันว่ามีร่องรอยถูกข่มขืนกระทำชำเรา พบเชื้ออสุจิในช่องคลอด และ มีร่องรอยการทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บต้องนอนพักรักษาตัว 7 วัน แต่ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า และถูกข่มขู่คุมคามทางโทรศัพท์เพื่อให้ถอนแจ้งความ

น.ส.ดาว กล่าวว่า ขณะนี้ตนอาศัยอยู่กับยายเพียง 2 คน ส่วนบิดาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ค่ายพระมงกุฎเกล้า ต.ห้วยทราย อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์ แต่เสียชีวิตตั้งแต่ตนอายุ 3 ขวบ ส่วนมารดาไปมีครอบครัวใหม่ ในวันเกิดเหตุได้พบกับนายเอ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันมีภรรยากำลังตั้งครรภ์ โดยตนได้เล่าให้ฟังว่า รถจักรยานยนต์ได้ค้างค่างวดกับไฟแนนซ์ไม่มีเงินสดไปชำระ นายเอ จึงออกอุบายให้ยืมแหวนทองคำไปจำนำ แต่อ้างว่าแหวนวงดังกล่าวฝากไว้กับเพื่อน จึงให้ตนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายเอไปหาเพื่อน

"จากนั้นได้พาเข้าไปข่มขืน แต่ขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ คนร้ายจึงลงมือข่มขืน พร้อมชิงโทรศัพท์มือถือ และเงินสด 400 บาทและผลักตกสระน้ำ หลังจาก นายเอ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีจึงเดินมาขอความช่วยเหลือจากคนงานชาวพม่านำเสื้อมาให้สวมใส่และพาเข้าแจ้งความที่ สภ.ทับสะแก ที่ผ่านมาคดีไม่คืบหน้า คนร้ายยังไม่ได้รับทราบข้อกล่าวหา จึงเข้าร้องเรียนกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันพ่อแม่ของนายเอ ได้โทรศัพท์เสนอให้เงิน 30,000 บาท เพื่อขอให้ถอนแจ้งความแต่ยืนยันว่าไม่ถอนอย่างเด็ดขาด และขณะนี้มีโทรศัพท์ลึกลับข่มขู่ว่ามีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายสามารถช่วยเหลือเรื่องคดีให้นายเอได้ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงต้องพายายหลบหนีไปอาศัยอยู่กับผู้ใหญ่บ้าน"

น.ส.ดาว กล่าวอีกว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้โทรมาขอให้ถอนแจ้งความหลายครั้ง โดยแจ้งว่าไม่เช่นนั้นจะถูกแจ้งความกลับข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจากนายเอ มีอายุน้อยกว่า ซึ่งตนได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว

เรียบเรียงโดย

Cr:http://www.tnews.co.th/contents/bg/309867